วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Tales of Rendell EP 1 : The Beginning Story

เกริ่นนำ : แม่... แม่... แม่กลับมาแล้ว จ๊ะ แม่กลับมาแล้วลูกแม่พร้อมจะฟังเรื่องราวการพจญภัยของเรนเดลหรือยังเอ่ย พร้อมแล้วครับแม่ เด็กชายก็กระโดดขึ้นมานั่งฟังบนตักของผู้เป็นมารดา 



บทที่ 1 เริ่มต้นการพจญภัย


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว... ณ ราชอาณาจักรที่รุ่งโรจน์แห่งหนึ่ง นามว่า อเล็กซานเดรีย เป็นอาณาจักร ที่ทุกเผ่าพันธุ์ สามารถเข้ามาอยู่อาศัยหรือค้าขายได้อย่างอิสระ ปกครองโดย
พระราชา รุนดาฟ พระเองค์ทรงมี พระราชธิดานามว่า เอเรนเนีย เจ้าหญิง เอเรนเนีย ทรงเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน เพราะเป็นคนที่ฉลาด ไวพริบดีเยี่ยมเหมือนพระราชา และ อ่อนโยน  มีเมตตา เหมือนกับ พระราชินีแม่ของเธอ  เจ้าหญิง เอเรนเนีย ทรงชื่นชอบที่จะปลอมตัวเป็นคนทั่วไปแล้วออกจากวังเพื่อไปเที่ยว ซึ่งพระราชากับพระราชินี ทรงทราบดี และก็ปล่อยให้เจ้าหญิงออกไป แต่มีข้อแม้ว่า ต้องพาพระสหายไปด้วย พระสหายของ เจ้าหญิง เอเรนเนีย มีนามว่า เฮเลนน่า เธอเป็นทั้ง บอดี้การ์ด เพื่อสนิท ของเจ้าหญิง ทุกครั้งที่เธอจะออกจากวังเพื่อเดินเล่นภายในราชอาณาจักร เธอจะบอกกับฌอเลนน่าว่า ให้พูดเหมือนคนทั่วไป เฮเลนน่าก็รับทราบ และทำตามตลอดเรื่อยมา





วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

Versailles The Philharmonic Quintet วง Visual Rock จากญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่ว

Versailles



วง Visual Rock หรือ Kei วงนี้จะไม่พูดถึงเลยก็ไม่ได้ พวกเราจะรู้จักพวกเขาในนาม Versailles 
ส่วนทางฝรังจะรู้จักในชื่อเต็มของพวกเขาว่า  Versailles The Philharmonic Quintet ซึ่งเป็นวง Visual Melodic/Symphonic Metal ที่ดังไปในทางแถบยุโรป(อยากให้ลองมาไทยสักครั้ง T^T)
แรกเริ่มเดิมทีวง Versailles เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2007 โดยมีอาเจ๊ Hizaki (เขาเป็นผู้ชายนะเออ และเป็นมือกีต้าร์) กับ Kamijo(ร้องนำ) แรกหลังจากนั้นก็มี สมาชิกคนอื่นๆได้แก่ Jusmin You(เบส ( RIP ) และ Teru(กีต้าร์) รวมถึง Yuki(มือกลอง) ส่วน Concept Kamijo และ Hizaki 2คนนี้เริ่มคิดกันเมื่อปี 2006 และใช้เวลาตามหาสมาชิกนานถึง ครึ่งปี  ส่วนเรื่อง Concept ได้ตามนี้ The absolute Youshikibi sound and extremes of aestheticism". ซึ่งหมายถึง "ซาวนด์ที่สวยงามและที่สุดแห่งความงามอันเป็นเอก(ของสมาชิกในวง)" 

เครดิตส่วนที่เหลือ : http://rebirthera.exteen.com/20080723/versailles


วันที่ 29 มีนาคมก็ได้สมาชิกที่ลงตัว และวันถัดมาก็ได้ประกาศชื่อวงอย่างเป็นทางการว่า "Versailles"
2 พฤษภาคม พวกเขาแสดงการมีตัวตนบนโลกด้วยการโพสวิดิโอเทรลเลอร์ของทางวงลงใน Youtube หลังจากนั้นก็ได้รับการทาบทามให้ไปทัวร์และให้สัมภาษณ์จากสื่อทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ทำแค่ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศเท่านั้น
เมื่อมาถึงสิ้นเดือนก็มีสื่อจากเยอรมันมาสัมภาษณ์พวกเขาถึงที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว ในเดือนมิถุนาบทสัมภาษณ์ก็ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Sankei  หลังจากนั้นด้วยฟีดแบ๊กจำนวนมาก แวร์ซายส์ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น จนติดท็อป 5 คำที่ถูกเสิร์จในเวบ Yahoo ด้วยคำว่า "Versailles Band" และก็ได้ออกทีวีในฐานะวงดนตรีที่มาแรงที่สุดในช่วงนั้น ทั้งๆที่ยังไม่ออกผลงานอะไรเลย
แวร์ซายส์ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มิถุนาหลังวันครบรอบวันที่ไวพจน์ เพชรสุพรรณลาบวชเพียงสองวันเท่านั้น จากนั้นก็มีไลฟ์โชว์แรกในวันถัดมา โดยในช่วงสองวันนี้เอง พวกเขาก็ถือโอกาสเปิดตัวซิงเกิลแรกในรูปแบบซีดีและดีวีดีซิงเกิลในชื่อว่า "The Revenant Choir"
31 ตุลา นอกจากเป็นวันเกิดแม่ผู้แปลและวันฮัลโลวีนแล้ว ยังเป็นวันที่แวร์ซายส์ปล่อยมินิอัลบั้มชุดแรกในชื่อ Lyrical Sympathy ทั้งในญี่ปุ่นและในยุโรป จากนั้นไม่นานก็ปล่อยดีวีดีชื่อ "Aesthetic Violence" มาให้แฟนเพลงสอยกันอีก โดยจะมีทั้งหมด 5 เวอร์ชั่น ตามจำนวนสมาชิก เพื่อแนะนำสมาชิกในวงนั่นเอง




ในปี 2008 แวร์ซายส์เบิกฤกษ์ด้วยการส่งเพลงใหม่ไปรวมในอัลบั้มคอมไพเลชั่น "CROSS GATE 2008~chaotic sorrow~" ซึ่งอัลบั้มนี้โปรดิวซ์โดย คิซากิ(ไม่ใช่ฮิซากินะครับ คนละวงกัน) และ คามิโจ หลังจากนั้นก็มีประกาศว่าทางวงจะไปเล่นในงาน A-kon 19 ที่ดัลลาส เท็กซัส และ เมืองชื่อเหมือนจักรยานอย่าง LA ในเวลาถัดมา (อ่านบทสัมภาษณ์ได้ด้านล่าง) โดยหลังจากนั้นก็จะออกทัวร์ร่วมกับ Matenrou Opera (เป็นวงวิช่วลเพาเวอร์อีกวงนึงซึ่งเป็นวงใหม่ของนักร้องวงวิช่วลเพาเวอร์ที่ชื่อ Jeniva ส่วนเพลงที่ทางวงส่งไปรวมในอัลบั้มที่ว่าก็คือ SFORZANDO --- ผู้แปล)
และปีนี้แวร์ซายส์ก็มีโอกาสเล่นในงานคอนเสิร์ตรำลึกถึงฮิเดะอย่าง "hide memorial summit" พร้อมทั้งออกอัลบั้มเต็ม Noble ผ่านทาง iTunes วันที่ 9 กรกฎาคม และผ่านทางแผงเทปในวันที่ 16 กรกฎาคม 2008 

แถมรูปพวก อาเฮียสักหน่อย 

รูปนี้นอกเครื่องแบบ แต่ก็มีกึ่งๆ



มาแนวเจ้าชาย เจ้าของปราสาทโครตหรู


                                                           รูปสุดท้าย



วิธีลดต้นขา แบบญี่ปุ่น ง่ายๆ ไม่เสียตังค์

เป็นวิธีง่าย ๆ จากประเทศญี่ปุ่น เพียงแค่เวลาที่คุณนั่ง ไม่ว่าจะนั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ นั่งดูทีวี ฯลฯ ให้นำสมุดโทรศัพท์เล่มหนา หรือหนังสืออะไรก็ได้ที่หนา ๆ ไม่ต่ำกว่า 5 เซนติเมตร มาหนีบไว้ที่ระหว่างขาให้แน่น ๆ จนเมื่อย ทนไม่ไหวก็ให้คลายสักครู่ แล้วทำต่อค่ะ ความเมื่อยที่คุณรู้สึกได้ จะช่วยลดต้นขาได้ดีเลยล่ะ



วิธีลดต้นขา ด้วยการหนีบหนังสือหนา ๆ ไว้ที่หว่างขา
นอกจากนี้ ถ้าใครอยากจะลดช่วงน่องด้วย ก็ลองเกร็งขาแล้วยกขาให้ลอยเหนือพื้น ขณะที่ยังหนีบหนังสือหนา ๆ ไว้อยู่นั่นแหละ ค้างไว้ท่านั้นประมาณ 20 วินาที หรือจนกว่าจะทนไม่ไหวเช่นกันก็พักได้สักครู่ แล้วยกค้างไว้ต่อ ทำประมาณ 10 ครั้งบ่อย ๆ จะช่วยลดต้นขากับน่องได้ด้วย

ปล.ผู้ชายก็ใช้ได้นะ

แหล่งข้อมูล : kroobannok